ป่วนหัวใจนายซุปตาร์
ผู้เข้าชมรวม
701
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
“ ผู้เข้ารอบออดิชั่นคนสุดท้าย ตัวแทนจากประเทศไทยได้แก่…. ลิต้า ลลิตา จงวัฒนา ครับ”
เสียงประกาศสุดท้ายจากกรรมการ ทำให้ฉันแทบหยุดหายใจ ฉันรักการเต้นมาก ถึงแม้การร้องเพลงมันจะ
ไม่ค่อยได้เรื่องนัก ฉันก็เหมือนเด็กไทยคนอื่นๆ ที่มีความฝันที่จะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงและได้ทำในสิ่งที่รัก
ฉันรักการเต้นมากตั้งแต่จำความได้และคุณแม่ก็มักจะสนับสนุนฉันเสมอ ในขณะที่คุณพ่อ ท่านไม่ค่อยจะ
เห็นด้วยกับเรื่องนี้นัก วันนี้ฉันมาออดิชั่นเป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปเป็นศิลปินฝึกหัดที่ประเกาหลี
ภายใต้สังกัด MP Entertainments ที่โด่งดังของเกาหลี สังกัดนี้ได้ผลิตศิลปินคุณภาพมาแล้วมากมายและใน
ที่สุด ฉันก็จะเป็นหนึ่งในนั้น และฉันจะไม่ทำให้ประเทศไทยผิดหวังแน่นอน
“เราจะเริ่มเดินทางไปประเทศเกาหลีอาทิตย์หน้านะครับ ช่วยเอาใบสัญญาไปให้ผู้ปกครองเซ็นด้วย”
“ ครับ/ค่ะ” ฉันและเด็กไทยอีกคนที่ผ่านเข้ารอบพยักหน้า
“ ส่งใบตอบรับก่อนจะเดินทาง 5 วันนะครับ งั้นพี่ขอภายในวันพรุ่งนี้เลยแล้วกันนะ^^”
“ ขอส่งช้ากว่านี้นิดนึ่งได้มั๊ยคะ คือพอดีว่าที่บ้านไม่ค่อยอยู่บ้านหน่ะค่ะ” ฉันถามอย่างกังวล
“ ไม่ได้ครับ ปัญหานี้น้องต้องไปแก้เองนะครับ ถ้าผู้ปกครองไม่เซ็นมา น้องก็ต้องสละสิทธิ์นะครับ”
“ ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ”
ปัญหาใหญ่ของฉันคือ พ่อและแม่ของฉันไม่รู้ว่าฉันจะจริงจังถึงขนาดได้ไปเป็นเด็กฝึกหัดของศิลปินเกาหลี
และฉันก็รุ้สึกว่า มันเป็นไปไม่ได้แน่ที่พ่อและแม่ของฉันจะอนุญาติ ท่านคาดหวังกับฉันมาก เพราะท่านได้
เตรียมพร้องทุกอย่างสำหรับอนาคตอันสดใสไว้หมดแล้วหน่ะสิ ท่านอยากให้ฉันเป็นนักธุรกิจหญิงและสืบ
ทอดกิจการของครอบครัวต่อ ฉันและพ่อทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องนี้ และฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าเอาใบสัญญา
ไปให้ท่านเซ็นได้อย่างไร ฉันนั่งคิดเรื่องนี้อยู่พักใหญ่ และในที่สุดฉันก็เดินมาถึงหน้าบ้าน คุณแม่กำลังจัด
แจงอาหารเย็น และท่าทางคุณพ่อจะมีแขก เฮ้อ~ เอาไว้คุยพรุ่งนี้แล้วกัน เพราะตอนนี้ฉันก็ยังไม่พร้อมหรอก
ตี๊ด~ ตี๊ด~
เสียงนาฬิกาปลุกตัวเดิมที่อยู่กับฉันมากว่า6ปีดังขึ้น เป็นสัญญาณให้ฉันตื่นไปโรงเรียน โอ้ว ฉันลืมแนะนำ
ตัวไปเลย ฉันชื่อ ลิต้า อายุ 19 ปี และตอนนี้กำลังเรียนในมหาลัยชื่อดังของรัฐ สาขาการบริหารจัดการ
เห็นมั๊ยหล่ะ สาขาที่ฉันเรียนกับความฝันที่ฉันต้องการมันช่างแตกต่างกันเสียจริง วันนี้เป็นวันสอบวันสุด
ท้ายก่อนจะปิดเทอมยาว 6 เดือน เพราะประเทศไทยจะต้องปรับเวลาเปิดเทอมของนักศึกษาให้ตรงกับ
อาเซียที่จะถึงนี้ นี้หล่ะถึงเป็นสาเหตุว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจไปออดิชั่นในช่วงเวลานี้
“ลิต้า! เป็นไงแม่สาวเท้าไฟ แกออดิชั่นของ MP ได้แล้วนิ ยินดีด้วยนะแก” บีเก้เพื่อนสนิทสุดที่รักของฉัน
เดินเข้ามาทักด้วยความยินดี
“ เฮ้อ~ ฉันก็ดีใจนะที่ฉันออดิชั่นติดและจะได้ทำตามความฝันของฉันซะที”
“ นี่คือท่าทางของคนดีใจหรอห๊ะ เครียดเรื่องพ่อจะอนุญาติรึปล่าวสินะ หน้าแบบนี้หน่ะ”
“ก็ใช่สิแก แกก็รู้ว่าพ่อฉันดุแค่ไหน เขาพร้อมที่จะไม่มีเหตุผลใดๆกับเรื่องแบบนี้แน่ๆ”
“แกต้องพยายามคุย ถ้าไม่อย่างนั้นก็บอกพ่อแกว่าแกจะไปเรียนภาษา 6 เดือนสิ”
“เออใช่! แกฉลาดมากเลยนะ หึหึ คราวนี้หล่ะ พ่อต้องอนุญาติแน่ๆ แต่เขาคงไม่ให้ฉันไปเกาหลีแน่ๆ”
“ อ๊าว! เขาอนุญาติให้แกเรียนภาษาเกาหลีมากตั้งหลายปี ทำไมเขาถึงจะไม่ให้แกไปเรียนภาษาที่นั้น? เอางี้
ก็บอกเขาว่าแกได้เป็นตัวแทนของมหาลัย ได้ไปศึกษาดูงานที่เกาหลีเป็นเวลา 6 เดือน เดี๋ยวเรื่องเอกสาร
ฉันจะจัดการให้ จะได้เนียนๆหน่อย โอเคปะ?” แผนการของยัยเพื่อนรัก ทำเอาฉันทึ้งไปเลยนะเนี่ย
“แล้วเรื่องลายเซ็นหล่ะ?”
“เดี๋ยวเรื่องนั้นฉันจัดการเอง แกไปคิดเอา ว่าจะพูดยังไงให้พ่อกับแม่ของแกอนุญาติดีกว่านะ”
“ได้เลยแก ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่าง ฉันจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลยจริงๆ”
“ไม่มีปัญหา เพื่อแก ฉันทำได้ทุกอย่างเลย ^^”
เมื่อกลับบ้านไป ฉันก็พยายามพูดให้พวกท่านเชื่อ ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะถามมาเยอะ ต้องการการตรวจสอบ
ก็เล่นเอาฉันเหงื่อแตกไปเหมือนกัน ท่านวางแผนให้ฉันไปเรียนภาษาที่อังกฤษอยู่แล้ว แต่ฉันต้องบอกท่าน
ว่าฉันสอบได้และถูกคัดเลือกจากนักศึกษากว่าร้อยคนเพื่อจะได้เป็นหนึ่งเดียว และฉันพยายามมากแค่ไหน
เพื่อที่จะได้เป็นตัวแทน พูดไปฉันก็รู้สึกผิดนะที่ต้องโกหก แต่ถ้าพวกท่านรู้ความจริง ท่านต้องไม่ยอมแน่ๆ
ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆ ขอโทษนะคะ แต่หนูก็มีความฝันที่มันขัดต่อความต้องการของคุณพ่อจริงๆและใน
ที่สุด พวกท่านก็ใจอ่อนและยอมให้ฉันไปแต่โดยดี เอาหล่ะ! ลิต้า สู้ๆ ไปทำความฝันให้เป็นจริงซะที!!!!
บทที่ 1
อันยองฮาเซโย~ ฉันชื่อ ฮัน นาบี
เมื่อมาถึงเกาหลี ผู้จัดการก็พาพวกเราเข้าหอพักทันที ห้องพักศิลปินฝึกหัดมันช่างอึดอัดและแออัดจริงๆ
มันไม่ได้สบายอย่างที่คุณคิด และตารางการเรียนและการฝึกซ้อมของพวกเราก้แน่นมากตั้งแต่วันแรก
ฉันเป็นเด็กไทยคนเดียวในหอนี้ มีชาวต่างชาติไม่กี่คน และอีกคนจะมาจากประเทศจีน เด็กไทยอีกคนที่เข้า
รอบมากับฉันตอนแรกโดนย้ายไปอยู่อีกค่าย ในห้องนี้เป็นเด็กเกาหลีหมดเลยยกเว้นฉัน หนึ่งห้องเราจะ
นอนกัน 4 คน รูมแมทของฉันก็ต้อนรับฉันเป็นอย่างนี้ คนแรกชื่อ คิม นานะ เป็นคนเหงียบๆและเก็บตัว
นานะจะไม่ค่อยสุงสิงกับใครแต่เธอเต้นเก่งมากเลยหล่ะ คนที่สองชื่อ ฮัน เซฮยอง เธอเด็กกว่าฉันสองปี
เธอนิสัยดีนะ และเฟรนลี่มากด้วย คนสุดท้ายชื่อ ปาร์ค ฮเยจู เธอเป็นผู้หญิงแนวน่ารักๆตัวเล็กๆและอายุเท่า
ฉัน สามคนนี้ก็พึ่งได้รับเลือกให้เข้ามาเป็นเด็กฝึกพร้องกับฉัน และตอนนี้พวกเรากำลังจัดข้าวของในห้อง
“ ทุกคนคะ อีก 15 นาทีเรามีประชุมใหญ่ที่ห้องซ้อมเต้นชั้น5นะคะ” ทีมงานมาเรียกพวกเราไปที่ห้องซ้อม
“ งั้นก็ค่อยมาทำทีหลังเถอะ ไปกัน^^” ฮเยจูเรียกพวกเราให้ไปที่ห้องฝึกซ้อม เด็กฝึกทุกคนในบริษัทมารวม
ตัวกันในห้องนี่ ว้าว~ แต่ละคนหน้าตาดีกันทั้งนั้นเลย อายุก้ไล่เลี่ยกับฉันทั้งนั้น เด็กๆตั้งแต่ 15-23 ทั้งหมด
พวกเรารอทีมงานซักพัก ท่านประธานและทีมงานทั้งหมดก็เข้ามาพูดคุยกับพวกเรา ทีมงานได้จัดแจงแบ่ง
กลุ่มเด็กทั้งหมดในห้องนี้ ตามความสามารถของแต่ละคน โดยจะให้แต่ละคนทำความรู้จักกันให้ทั่วทั้งห้อง
และหลังจากนั้นก็จะเริ่มแบ่งกลุ่มกัน กลุ่มที่ทางบริษัทจัดมามีทั้งหมด 4 กลุ่ม โดยจะคละกันชายหญิงตาม
ความสามารถ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่มีพรสวรรค์และเตรียมพร้อมที่จะเป็นศิลปินได้เลย จะเป็นกลุ่มที่มีแต่คน
เก่งๆมารวมตัวกัน กลุ่มนี้จะฝึกนานกว่ากลุ่มอื่นหน่อย เพราะต้องเตรียมเดบิวต์ทันทีในช่วงซัมเมอร์หน้า
กลุ่มที่สองจะเป็นกลุ่มที่เก่งปานกลาง เสียงร้องพอใช้ได้แต่ต้องเต้นเก่งมากจริงๆ กลุ่มที่สามจะเป็นกลุ่มที่
เด่นมากในเรื่องเสียง พวกเสียงดีๆก็จะอยู่ในกลุ่มนี้ และกลุ่มสุดท้ายจะเป็นกลุ่มที่ต้องฝึกเรื่องการร้องและ
ท่าเต้นอีกมาก แต่หน้าตาดี และตอนนี้ทีมงานและผู้จัดการกำลังคัดแยกเด็กๆ เมื่อไหร่จะเรียนชื่อฉันซักที..
“ลิต้า! จากประเทศไทย คุณมาอยู่กลุ่มสองค่ะ”
“ค่ะ” ฉันยืนขึ้นและเดินไปเข้ากลุ่มทันที กลุ่มสองมีประมาณหกคนได้ และฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวซะด้วยสิ
“สวัสดี เธอมาจากประเทศไทยหรอ? น่าสนใจดีนะ” ผู้ชายที่นั่งข้างๆฉันทักทาย
“สวัสดี ฉันชื่อลิต้าค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ^^” ฉันตอบไปอย่างเป็นมิตร รู้สึกเกร็งๆนะที่เป้นผู้หญิง
คนเดียวในกลุ่มนี้ รายล้อมไปด้วยชายหน้าตาดีที่ห้า (อย่าพึ่งอิฉานะ ><”)
“สวัสดี ฉันชื่อ คิม มินจุน อายุน้อยกว่าเธอ แต่เราคุยกันแบบไม่เป็นทางการได้ใช่มั๊ยนูน่า ฮ่าๆ” มินจุนเป็น
ผู้ชายที่หน้าตามีเสน่ห์มาก ผิวขาวอย่างกับหลอดไฟนีออน์ ตัวเค้าสูงมากและผอมกว่าฉันอีกมั๊ง
“ ฉันชื่อ ปาร์ค ซูโฮ อายุมากกว่าเธอ และยินดีที่ได้รู้จักนะเด็กไทย” พี่ซูโฮ ท่าทางจะแก่ที่สุด เขาท่าทางจะ
เป็นคนที่นิสัยดีพอตัวเลยหล่ะ เวลาเขายิ้มทีนี่คงละลายสาวๆไปแทบแน่ๆ
“ฉันชื่อ คริส ลี เรียกฉันว่าคริสนั้นหล่ะ อายุเท่ากัน มาจากนิวยอร์ค ยินดีที่ได้รู้จัก” คริสเป็นลูกครึ่งเกาหลี
ผสมกับอเมริกัน เค้ามีผมสีบลอนด์และหน้าตาดีมาก!!! เขาเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งและพูดได้5ภาษาเลยนะ
“ฉันชื่อ ลู่ห่าน มาจากประเทศจีน ยินดีที่ได้รู้จักนะชาวต่างชาติ ฉันยังพูดเกาหลีไม่เก่งเท่าเธอเลยนะ” ลู่ห่าน
เป็นคนจีน มาจากเซียงไฮ้ เขามาอยู่เกาหลีได้สามเดือนแล้ว เค้าแก่กว่าฉัน แต่เขาเป็นผู้ชายหน้าหวานนะ
“แล้วคุณหล่ะ คุณชื่ออะไรหรอ?” ฉันถามผู้ชายที่อยู่ตรงข้าม เค้าเอาแต่นั่งมุมห้องมานานแล้ว และยังไม่
คิดจะคุยกับใครซักคน แปลกประหลาดคนจริงๆ
“เซฮุน …ปาร์ค เซฮุน รู้แค่นั้นหล่ะ” เขาพูดและก็นั่งเล่นเกมส์ในโทรศพท์ต่อ แปลกคนจริงๆ ไม่คิดจะคบค้าสมาคมกับคนอื่นบ้างเลยรึไง พวกเขามาเป็นเด็กฝึกกันตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ละคนในกลุ่มนี้เป็นเด็กฝึกหัดมาแล้วอย่างน้อยสองปีหล่ะ แต่ฉันนี้สิ พึ่งจะมาเป็นเด็กฝึกได้แค่หนึ่งอาทิตย์เองมั๊งทุกคนยังตกใจอยู่เลยที่เด็กหน้าใหม่สามารถมาอยู่กลุ่มที่มี
สามารถระดับกลุ่มสองได้ หวังว่าฉันจะไม่ถูกมั่นไส้เอาหรอกนะ หลังจากที่พวกเรารุ้จักกันหมดแล้ว ผู้จัดการก็จะให้เด็กฝึกที่มาจกต่างประเทศใช้ชื่อภาษาเกาหลีเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำของเพื่อนในกลุ่มและ
แฟนคลับในอนาคตด้วย และชื่อใหม่ของฉัน
“อันนยองฮาเซโย ชอนึน ฮัน นาบี อิมนีดา^^” (สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ฮัน นาบี ค่ะ^^)
หลังจากได้ชื่อใหม่และทุกคนรู้จักกันหมดแล้ว เราก็เริ่มฝึกซ้อมตามกลุ่ม เด็กฝึกที่นี่ตอนที่ฝึกซ้อมไม่มีการ
แยกชายหญิงเลยนะ ถึงแม้จะเป็นเพลงผู้ชาย เพลงเร็วหรือช้าก็ต้องเต้นในแบบผู้ชายเต้น เพราะถ้าได้มาอยู่
กลุ่มสอง และเป็นผู้หญิงก็มีเพียงไม่กี่คนในแต่ละปีที่ผู้หญิงจะได้เข้ากลุ่มสอง แต่ถ้าฉันมาตารางต้องเปลี่ยน
แนวเพลง ฉันก้ต้องไปเรียนกับกลุ่มอื่น ที่จะมีการคละกลุ่มอยู่ทุกอาทิตย์ตั้งแต่มาถึงจนซ้อมเสร็จ ก็ปาเข้าไปตี5แล้ว และพรุ่งนี้ฉันมีตารางเรียนเต้นคลาสแรกตอนแปดโมงเช้า ได้ตายเถอะทำไมถึงได้หนัก
หนาสาหัสขนาดนี้ชีวิตฉัน (T^T)
“ นาบีๆ ตื่นได้แล้ว คนอื่นเขาอาบน้ำเสร็จหมดแล้วนะ เหลือเธอคนเดียวเนี่ย!” ฮเยจูปลุกฉันอย่างรีบๆ
“โอ๊ยตายแล้ว คลาสแรกฉันจะสายไม่ได้นะ!” ฉันสะดุ้งพรวดและรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ฉันกำลังวิ่งอย่างหน้าตาตื่นไปเรียนคลาสฮิปฮอบ ลิฟท์คงไม่ไหวแน่ๆเพราะมีคนมายืนรอเต็มไปหมด ฉันเลยตัดสินใจขึ้นบันไดหนีไฟแทน วิ่งมาได้ซักพัก ฉันก็เจอกับผู้ชายหน้าตาดี กำลังนั่งสูบบุหรี่ตรงบันได
พอเข้าไปใกล้ๆก็รุ้ทันที เซฮุน ผู้ชายที่เหงียบขรึมประจำกลุ่มสอง เขากำลงสูบบุหรี่และกำลังใช้ความคิด
เค้าเมอลอยเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างอยู่
“ นี่สายแล้วนะ ทำไมนายไม่รีบเข้าคลาสหล่ะ ไม่กลัวโดนดุรึยังไง”
“แล้วเธอไม่เห็นหรอว่าฉันทำอะไรอยู่ ยุ่งแต่เรื่องของตัวเองไปเถอะหน่า” เขาพูดโดยไม่หันมามองหน้าฉัน
“เด็กฝึกห้ามสูบบุหรี่ นายไม่รู้จักกฏข้อนี้รึไง”
“ฉันรู้ ฉันเลยมาสูบตรงนี้ไง (-_- เธอนี่มันน่ารำคานจริงๆ ไปดี๊ด๊ากับผู้ชายของเธอเถอะไป”
“พวกเขาก็เป็นเพื่อนฉันทั้งนั้น แล้วฉันดี๊ด๊าตอนไหนไม่ทราบ”
“น่ารำคานจริงๆยัยเด็กต่างด้าว” เขาทิ้งบุหรี่และทำท่าจะเดินหนีฉันไปดื้อๆ
“นี่นาย! เรียกใครว่าต่างด้าวยะ ฉันป่าวนะ วะว๊า~ว๊ายยยยยย” ขณะที่ฉันจะวิ่งตามซึงวูให้ทัน ฉันดันก้าว
พลาดและเสียหลักลง ซึงวูหันมาและใช้ตัวเขารับฉันแทน แขนของเขากระแทกเข้ากับขั้นบันไดและบวก
กันน้ำหนักของฉันเข้าไปอีก ท่าทางจะเจ็บน่าดูเลยนะเนี่ย ตายๆ ยัยลิต้า ยัยเซ่อเอ๊ย!!
“ นายเป็นอะไรมั๊ยซึงวู ฉันขอโทษ ฉันแค่จะวิ่งตามนายให้ทัน นายเจ็บมั๊ย”
“มาล้มดูมั๊ยหล่ะ จะได้รู้ว่าเจ็บรึป่าว” เขาพูดอย่างเบื่อหน่าย หน้าตาเขาไม่แสดงออกว่าเจ็บเลยซักนิด
“นายจะให้ฉันทำอะไรฉันยอมทุกอย่าง เพื่อเป็นการขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“อย่างแรกที่เธอต้องทำคือ ลุกออกจากตัวฉันก่อนได้มั๊ย? (-_-) หนักซะมัด กินช้างมารึไง”
“อุ๊ย ขอโทษๆ นายเจ็บที่แขนมากมั๊ย”
“หยุดพูดว่าขอโทษซ้ำๆได้มั๊ยฉันรำคาน ทำไมคนเราถึงชอบพูดว่าขอโทษพร่ำเพื่อจริงๆเลยนะ”
“ฉันพูดว่าขอโทษ เพราะฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ทำไมถึงชอบมองคนในแง่ร้ายนักนะ”
“ช่างมันเถอะ ไว้เรื่องนั้น ฉันจะลองคิดดูว่าเธอสามารถทำอะไรเพื่อเป็นการไถ่โทษฉันได้บ้าง”
“อืม คิดได้แล้วก็บอกมาแล้วกัน”
ฉันและเซฮุนเข้าคลาสสายตามคาด เราสองคนโดนครูฝึกบ่นและถูกทำโทษให้เลิกเรียนช้า พอเริ่มคลาส เซฮุนไม่สามารถเต้นได้เต็มที่นัก เพราะแขนของเขากำลังเจ็บอยู่ แต่เขาก็ไม่บ่นซักคำและฝืนเต้นต่อไป เขาโดนครูฝึกดุหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่มีทางทีที่จะท้อหรือรำคานเลยซักนิด เขาพยายามมากที่จะเต้นให้ได้ถึงแม้ว่าแขนของเขาจะเจ็บอยู่เหงื่อของเขาไหลเยอะมากเพราะต้องเต้นหลายชั่วโมงติดต่อกัน เสื้อของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เซ็กซี่ชะมัด (-..-‘)
“นูน่าจ้องอะไรหรอ เห็นมองฮยองตั้งนานเระ” มินจุนเดินเข้ามาถามอย่างสงสัย
“อ่อป่าวหรอก ก็มองอะไรไปเรื่อยเปลื่อยหน่ะ”
“หลังจบคลาสเราไปกินข้าวด้วยกันมั๊ย? แถวนี้มีร้านอร่อยๆเยอะเลยนะ^^” เซฮุนชวนอย่างดี๊ด๊า
“ไปสิๆ ชวนคนอื่นไปด้วยนะ^^ ”
“
ผลงานอื่นๆ ของ Vanes.z ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Vanes.z
ความคิดเห็น